วิทยาศาสตร์

ระบบประสาท (nervous system) คือ ระบบการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสัตว์ ทำให้สัตว์สามารถตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ รอบตัวอย่างรวดเร็ว  ช่วยรวบรวมข้อมูลเพื่อให้สามารถ
           ตอบสนองได้
   สัตว์ชั้นต่ำบางชนิด เช่น ฟองน้ำ  ไม่มีระบบประสาท  สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังบางชนิดเริ่มมีระบบประสาท  สัตว์ชั้นสูงขึ้นมาจะมีโครงสร้างของระบบประสาทซับซ้อน
           ยิ่งขึ้น
  ระบบประสาทของมนุษย์แบ่งออกเป็น  2  ส่วน คือระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทรอบนอก    
               
ระบบประสาทส่วนกลาง

                    
ระบบประสาทส่วนกลาง(the central nervous system หรือ  somatic nervous system ) เป็นศูนย์กลางควบคุมการทำงานของร่างกาย  ซึ่งทำงานพร้อมกันทั้งในด้านกลไกและทางเคมีภายใต้
           อำนาจจิตใจ
  ซึ่งประกอบด้วยสมองและไขสันหลัง  โดยเส้นประสาทหลายล้านเส้นจากทั่วร่างกายจะส่งข้อมูลในรูปกระแสประสาทออกจากบริเวณศูนย์กลาง  มีอวัยวะที่เกี่ยวข้องดังนี้

                    
1.  สมอง(brain)  ป็นส่วนที่ใหญ่กว่าส่วนอื่นๆ ของระบบประสาทส่วนกลาง  ทำหน้าที่ควบคุมการทำกิจกรรมทั้งหมดของร่างกาย  เป็นอวัยวะชนิดเดียวที่แสดงความสามารถด้านสติปัญญา
            การทำกิจกรรมหรือการแสดงออกต่างๆ สมองของสัตว์มีกระดูกสันหลังที่สำคัญแบ่งออกเป็น  3  ส่วนดังนี้

                        
1.1  เซรีบรัมเฮมิสเฟียร์(cerebrum hemisphereคือสมองส่วนหน้า  ทำหน้าที่ควบคุมพฤติกรรมที่ซับซ้อนเกี่ยวกับความรู้สึกและอารมณ์  ควบคุมความคิด  ความจำ  และความเฉลียวฉลาด  
           เชื่อมโยงความรู้สึกต่างๆ เช่น การได้ยิน
  การมองเห็น การรับกลิ่น  การรับรส  การรับสัมผัส  เป็นต้น                       
1.2  เมดัลลาออบลองกาตา(medulla oblongata)  คือส่วนที่อยู่ติดกับไขสันหลัง  ควบคุมการทำงานของระบบประสาทอัตโนวัติ  เช่น  การหายใจ  การเต้นของหัวใจ  การไอ  การจาม
           การกะพริบตา  ความดันเลือด เป็นต้น

                       
1.3  เซรีเบลลัม(cerebellum) คือสมองส่วนท้าย  เป็นส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและการทรงตัว ช่วยให้เคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำ  เช่น การเดิน  การวิ่ง  การขี่จักรยาน เป็นต้น




2.ไขสันหลัง (spinal cord) เป็นเนื้อเยื่อประสาทที่ทอดยาวจากสมองไปภายในโพรงกระดูกสันหลัง กระแสประสาทจากส่วนต่างๆ ของร่างกายจะผ่านไขสันหลัง  มีทั้งกระแสประสาทเข้า
         และกระแสประสาทออกจากสมอง
  
และกระแสประสาทที่ติดต่อกับไขสันหลังโดยตรง
  
                           3.  เซลล์ประสาท(neuron)  เป็นหน่วนที่เล็กที่สุดของระบบประสาท  เซลล์ประสาทมีเยื่อหุ้มเซลล์ไซโทพลาสซึมและนิวเคลียสเหมือนเซลล์อื่นๆ แต่มีรูปร่างและลักษณะแตกต่าง
            ออกไป
เซลล์ประสาทประกอบด้วยตัวเซลล์และเส้นใยประสาทที่มี  2  แบบคือ เดนไดรต์(dendrite) ทำหน้าที่นำกระแสประสาทเข้าสู่ตัวเซลล์และแอกซอน(axon)ทำหน้าที่นำกระแสประสาท
            ออกจากตัวเซลล์ไปยังเซลล์ประสาทอื่นๆ เซลล์ประสาทจำแนกตามหน้าที่การทำงานได้
  3 ชนิด คือ

                         3.1  เซลล์ประสาทรับความรู้สึก  รับความรู้สึกจากอวัยวะสัมผัส  เช่น จมูก  ตา  หู  ผิวหนัง  ส่งกระแสประสาทผ่านเซลล์ประสาทประสานงาน
                      
   3.2  เซลล์ประสาทประสาน เป็นตัวเชื่อมโยงกระแสประสาทระหว่างเซลล์รับความรู้สึกกับสมอง  ไขสันหลัง  
และ เซลล์ประสาทสั่งการ พบในสมองและไขสันหลังเท่านั้น
                         3.3  เซลล์ประสาทสั่งการ  รับคำสั่งจากสมองหรือไขสันหลัง  เพื่อควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ
  
          การทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง
                สิ่งเร้าหรือการกระตุ้นจัดเป็นข้อมูลที่เส้นประสาทนำไปยังระบบประสาทส่วนกลางเรียกว่า กระแสประสาท เป็นสัญญาณไฟฟ้าที่นำไปสู่เซลล์ประสาททางด้านเดนไดรต์ และเดินทางออก
        อย่างรวดเร็วทางด้านแอกซอน
  แอกซอนส่วนใหญ่มีแผ่นไขมันหุ้มไว้เป็นช่วงๆ แผ่นไขมันนี้ทำหน้าที่เป็นฉนวนและทำให้กระแสประสาทเดินทางได้เร็วขึ้น  ถ้าแผ่นไขมันนี้ฉีกขาดอาจทำให้
        กระแสประสาทช้าลง
  ทำให้สูญเสียความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อ  
เนื่องจากการรับคำสั่งจากระบบประสาทส่วนกลางได้ไม่ดี
  
               ระบบประสาทรอบนอก
                
       ระบบประสาทรอบนอก (peripheral nervous system)  ทำหน้าที่รับและนำความรู้สึกเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง  ได้แก่  สมองและไขสันหลัง  จากนั้นนำกระแสประสาทสั่ง
            การจากระบบประสาทส่วนกลางไปยังหน่วยปฏิบัติงาน
  ซึ่งประกอบด้วยหน่วยรับความรู้สึกและอวัยวะรับสัมผัส  รวมทั้งเซลล์ประสาทและเส้นประสาทที่อยู่นอกระบบประสาทส่วนกลาง  
           ระบบประสาทรอบนอกจำแนกตามลักษณะการทำงานได้
  2  แบบดังนี้
                      1.
  ระบบประสาทภายใต้อำนาจจิตใจ  เป็นระบบควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อที่บังคับได้รวมทั้งการตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอก

                      
2.  ระบบประสาทนอกอำนาจจิตใจ  เป็นระบบประสาทที่ทำงานโดยอัตโนวัติ  มีศูนย์กลางควบคุมอยู่ในสมองและไขสันหลัง  ได้แก่  การเกิดรีเฟลกซ์แอกชัน(reflex action) และเมื่อมี
           สิ่งเร้ามากระตุ้นที่อวัยวะรับสัมผัสเช่น ผิวหนัง
  กระแสประสาทจะส่งไปยังไขสันหลัง  และไขสันหลังจะสั่งการตอบสนองไปยังกล้ามเนื้อโดยไม่ผ่านไปที่สมอง ดังรูป เมื่อมีเปลวไฟมา
           สัมผัสที่ปลายนิ้ว
  กระแสประสาทจะถูกส่งผ่านไปยังไขสันหลังโดยไม่ผ่านไปยังสมอง  ไขสันหลังทำหน้าที่สั่งการให้กล้ามเนื้อที่แขนเกิดการหดตัว  
เพื่อดึงมือออกจากเปลวไฟทันที
  
 

ตารางแสดงตัวอย่างพฤติกรรมที่เกิดจากระบบประสาทรอบนอก
 
  
        
           
    พฤติกรรมของมนุษย์ที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้า
 
                         
พฤติกรรมการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของมนุษย์เป็นปฏิกิริยาอาการที่แสดงออกเพื่อการตอบโต้ต่อสิ่งเร้าทั้งภายในและภายนอกร่างกาย  เช่น 
                          
-  สิ่งเร้าภายในร่างกาย  เช่น ฮอร์โมน  เอนไซม์  ความหิว  ความต้องการทางเพศ เป็นต้น
                         -  สิ่งเร้าภายนอกร่างกาย  เช่น แสง  เสียง  อุณหภูมิ  อาหาร  น้ำ  การสัมผัส  สารเคมี  เป็นต้น
                         กิริยาอาการที่แสดงออกเพื่อตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอกอาศัยการทำงานที่ประสานกันระหว่างระบบประสาท  ระบบกล้ามเนื้อ  ระบบต่อมไร้ท่อ  และระบบต่อมมีท่อ  ดังตัวอย่างต่อไปนี้
                          
1.  การตอบสนองเมื่อมีแสงเป็นสิ่งเร้า
                               -  เมื่อได้รับแสงสว่างจ้า  มนุษย์จะมีพฤติกรรมการหรี่ตาเพื่อลดปริมาณแสงที่ตาได้รับ
                          2.  การตอบสนองเมื่ออุณหภูมิเป็นสิ่งเร้า
                               -  ในวันที่มีอากาศร้อนจะมีเหงื่อมาก เหงื่อจะช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกายเพื่อปรับอุณหภูมิภายในร่างกายไม่ให้สูงเกินไป
                               -  เมื่อมีอากาศเย็นคนเราจะเกิดอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ  หรือ เรียกว่าขนลุก
                          
3.  เมื่ออาหารหรือน้ำเข้าไปในหลอดลมเกิดพฤติกรรมการไอหรือจาม เพื่อขับออกจากหลอดลม
                          4.  การเกิดพฤติกรรมแบบรีเฟลกซ์  เป็นพฤติกรรมการตอบสนองหรือตอบโต้ทันทีเพื่อความปลอดภัยจากอันตราย เช่น
                               -  เมื่อฝุ่นเข้าตามีพฤติกรรมกะพริบตา
                               -
  เมื่อสัมผัสวัตถุร้อนจะชักมือจากวัตถุร้อนทันที                               -  
เมื่อเหยียบหนามจะรีบยกเท้าให้พ้นหนามทันที